ตอนนี้ บุหรี่ไฟฟ้า ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ นักสูบบุหรี่หน้าใหม่หรือกลุ่มวัยรุ่น นั่นเพราะมันพกพาไปไหนง่ายไม่มีกลิ่นไม่มีควัน ซื้อครั้งเดียว แค่เปลี่ยน pod system ก็ใช้ได้แล้วแค่นั้นเอง มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้เลือกสูบ ไม่ว่าจะเป็น relx , relx infinity และอื่นๆ บุหรี่ไฟฟ้า เป็นรูปแบบใหม่ของการสูบบุหรี่ เข้าถึงง่าย ติด บุหรี่ไฟฟ้า ได้ง่าย มันมาในรูปแบบใหม่ที่ผสมสารนิโคติน เข้าสู่ร่างกายผ่านละอองฝอย
ระบุไม่ได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้า อันตรายกว่าบุหรี่ทั่วไปหรือไม่
ขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า พอตบุหรี่ไฟฟ้า อันตรายน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป แต่พบว่า บุหรี่ไฟฟ้า มีสารนิโคตินจากใบยาสูบ และสารเคมีที่เป็นอันตรายกว่าบุหรี่ทั่วไป ภัยคุกคามจาก บุหรี่ไฟฟ้า มีมาก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ รวมไปถึงสุขภาพทางช่องปาก ที่เพิ่มความรุนแรงของฟันผุ ลดความต้านทานของเนื้อเยื่อในช่องปาก กระตุ้นให้เกิดการอักเสบและโรคปริทันต์ได้ง่ายขึ้น ทำให้สุขอนามัยในช่องปากเสื่อมโทรมลง สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ใช้มีอายุน้อยลง
และมีแนวโน้มที่ใช้ บุหรี่ไฟฟ้า เพิ่มมากยิ่งขึ้น การสูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต สมาคมโรคหัวใจทั้งในประเทศและนอกประเทศ จึงแนะนำให้เลือกสูบบุหรี่ ทั้งในแนวทางการรักษา โรคหลอดเลือดแดงหัวใจตีบชนิดเฉียบพลันและเรื้องรัง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไขมันในเลือดสูง
แนวโน้มการใช้ บุหรี่ไฟฟ้า ในวัยรุ่นมีสูงขึ้น
องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ระบุว่า การระบาดของ บุหรี่ไฟฟ้า ในกลุ่มเด็กเยาวชนปี 2562 ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในนักเรียนมัธยมตอนต้น เท่ากับ 5.3% มัธยมปลายเท่ากับ 16% รวมแล้วมีนักเรียนมัธยมสูบ บุหรี่ไฟฟ้า แล้วถึง 3 ล้านคน ในขณะที่ผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 25 ปี มีเพียง 3.7 % เท่านั้น แสดงว่า บริษัทผู้ผลิต บุหรี่ไฟฟ้า นั้น มุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชน สารนิโคตินเป็นอันตรายต่อสมองที่กำลังเจริญเติบโตของวัยรุ่น ทำให้เกิดความไม่สมดุลของสารในสมอง ทำให้สมองมีความรู้สึกโหยหาและต้องการสารนิโคตินมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ในปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ทั่วโลกปีละ 8 ล้านคน โดยอุตสาหกรรมยาสูบได้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อจูงใจให้เด็กและเยาวชน และนักสูบหน้าใหม่ติดใจมากขึ้น โดยเฉพาะ บุหรี่ไฟฟ้า ขณะนี้หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น บราซิล และไทย มีนโยบายห้ามจำหน่าย บุหรี่ไฟฟ้า แต่มีความพยายามของบริษัทยาสูบข้ามชาติได้สร้างกระแสและพยายามกดดันให้ออกกฎหมายยอมรับ บุหรี่ไฟฟ้า ทำให้บุหรี่ไฟฟ้า ถูกต้อง โดย บุหรี่ไฟฟ้า เป็นผลิตภัณฑ์จูงใจให้คนหันมาดูดบุหรี่ไฟฟ้ากันเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ในประเทศไทยได้มีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละ 7 หมื่นราย พบนักสูบหน้าใหม่ที่เป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไป ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจรวมปีละ 220,461 ล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลเก็บรายได้จากภาษียาสูบได้เพียงปีละ 68,603 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีปัญหาจากควันบุหรี่มือสอง ที่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่ใกล้เคียง จึงมีการผลักดันจากหลายหน่วยงานของรัฐบาลที่ห้ามมีการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า
